แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2545
*****************************
1. พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มีจำนวนกี่หมวด กี่มาตรา
ก.8 หมวด 78 มาตรา ข.8 หมวด 87 มาตรา
ค.9 หมวด 87 มาตรา ง.9 หมวด 78 มาตรา
ตอบ ง.9 หมวด 78 มาตรา
2. พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติถือว่าเป็น
ก.กฎหมายแม่บทการจัดการศึกษา ข.แนวทางจัดการศึกษาของรัฐ
ค.การปรับปรุงการศึกษาสอดคล้องรัฐธรรมนูญ ง.การปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ของไทย
ตอบ ก.กฎหมายแม่บทการจัดการศึกษา
3. พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่
ก.19 ส.ค. 42 ข.20 ส.ค. 42
ค.1 ต.ค. 42 ง.1 พ.ย. 42
ตอบ ข.20 ส.ค. 42
4. วัตถุประสงค์ของการจัดทำ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542
ก.ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข.ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค.พัฒนาคนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งทางร่างกายจิตใจ
ง.พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ตอบ ก.ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
5. พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ สอดคล้องกับข้อใดมากที่สุด
ก.แผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมแห่งชาติ
ข.แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ค.แผนการศึกษาแห่งชาติ
ง.แผนพัฒนาการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ค.แผนการศึกษาแห่งชาติ
6. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่สอดคล้องคำว่าการศึกษา
ก.การถ่ายทอดความรู้ ข.การฝึกอบรม
ค.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ง. การสืบสานทางวัฒนธรรม
ตอบ ค.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
7. ข้อใดให้ความหมายไม่ตรงกับ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือการศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. สถานศึกษา คือสถานที่จัดการสอนตั้งแต่ก่อนประถม ถึงระดับก่อนอุดมศึกษา
ค. มาตรฐานการศึกษา เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์ และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดในสถานศึกษาทุกแห่ง
ง. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ตอบ ข.สถานศึกษา คือสถานที่จัดการสอนตั้งแต่ก่อนประถม ถึงระดับก่อนอุดมศึกษา
8. ข้อใดต่างจากพวก
ก.ครู ข.คณาจารย์
ค.ผู้บริหารสถานศึกษา ง.ผู้บริหารการศึกษา
ตอบ ข.คณาจารย์
9. ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษาตาม พ.ร.บ.นี้ ได้แก่
ก.ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข.ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค.พัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ
ง.พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ตอบ ค.พัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ
10. ข้อใดไม่ใช่หลักการ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542
ก.เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อปวงชน
ข.เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ค.ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ง.พัฒนา สาระ และกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ตอบ ก.เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อปวงชน
11. ข้อใดไม่สอดคล้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ตามความมุ่งหมายของ พ.ร.บ.
ก.ปลูกฝังจิตสำนึกการเมือง การปกครอง ระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข
ข.รักษา และส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ เคารพกฎหมาย
ค.รู้จักรักษาผลประโยชน์ ส่วนรวมของประเทศชาติ
ง.กระจายการพัฒนาไปสู่ชนบทโดยการมีส่วนร่วมของภูมิปัญญาท้องถิ่น
ตอบ ง.กระจายการพัฒนาไปสู่ชนบทโดยการมีส่วนร่วมของภูมิปัญญาท้องถิ่น
12. ข้อใดไม่สอดคล้องการจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการการจัดการศึกษา
ก.กระจายอำนาจสู่สถานศึกษาทั้งหมด
ข.กำหนดมาตรฐานการศึกษา จัดระบบประกันคุณภาพ
ค.มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ง.รวมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ มาไว้ในการจัดการศึกษา
ตอบ ก.กระจายอำนาจสู่สถานศึกษาทั้งหมด
13. คำว่า “เอกภาพด้านนโยบาย หลากหลาย การปฏิบัติ” สอดคล้องกับข้อใด
ก. ส่วนกลางกำหนดนโยบาย ส่วนภูมิภาคกำหนดแนวทางปฏิบัติ
ข. กระทรวงกำหนดนโยบายมาตรฐานสนับสนุนเขตพื้นที่และสถานศึกษาบริหารจัดการด้วยตนเอง
ค. มีนโยบายเดียวกัน แต่การปฏิบัติหลากหลายวิธี
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
14. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่มีสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก.รัฐ ข.เอกชน
ค.องค์กรปกครองท้องถิ่น ง.โรงเรียน
ตอบ ง.โรงเรียน
15. ข้อใดไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ บิดา มารดา ผู้ปกครอง พึงได้รับในการจัดการศึกษา
ก.การสนับสนุนจากรัฐ ให้ความรู้ความสามารถในการอบรมเลี้ยงดู
ข.การยกเงินภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา
ค.เงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐานของคนในการดูแล
ง.การให้การศึกษาแก่บุตรหรือบุคคลในการดูแล
ตอบ ข.การยกเงินภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา
16. จุดที่ต่างกันของการศึกษาระบบต่างๆ ที่สำคัญคือข้อใด
ก.ระยะเวลาที่จัดการศึกษา ข.สถานที่จัดการศึกษา
ค.ตัวผู้เข้ารับการศึกษา ง.จุดหมาย วิธีการ หลักสูตร
ตอบ ง.จุดหมาย วิธีการ หลักสูตร
17. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาตามอัธยาศัย
ก.สถานศึกษา ต้องจัดการศึกษา ทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย
ข.ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม โอกาส
ค.จัดการเรียนรู้ทุกที่ ทุกเวลา
ง.ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเป็นแหล่งเรียนรู้
ตอบ ก.สถานศึกษา ต้องจัดการศึกษา ทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย
18. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่ใช่ สถานศึกษาปฐมวัย และการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก.โรงเรียน ข.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ค.ศูนย์พัฒนาชุมชน ง.ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ สถาบันศาสนา
ตอบ ค.ศูนย์พัฒนาชุมชน
19. ข้อใดไม่ถูกต้องในด้านการกระจายอำนาจให้เขตพื้นที่และสถานศึกษา
ก.ด้านวิชาการ ข.งบประมาณ
ค.หลักสูตรการสอน ง.การบริหารทั่วไป
ตอบ ค.หลักสูตรการสอน
20. ต่อไปนี้ข้อใดไม่ใช่กรรมการโรงเรียน
ก.ผู้แทนครู ข.ผู้แทนองค์กรเอกชน
ค.ผู้แทนศิษย์เก่า ง.ผู้แทนคุณวุฒิ
ตอบ ข.ผู้แทนองค์กรเอกชน
21. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิ์จัดการศึกษาระดับใด
ก.การศึกษาขั้นพื้นฐาน ข.การศึกษาอุดมศึกษา
ค.การศึกษานอกโรงเรียน ง.ทุกระดับ
ตอบ ง.ทุกระดับ
22. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบประกันคุณภาพภายในได้แก่
ก.สถานศึกษาเท่านั้น
ข.สถานศึกษาและเขตพื้นที่
ค.สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษา ขั้นพื้นฐาน
ง.สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ง.สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
23. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก.ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกครั้งแรก ใน 5 ปี
ข.สำนักงานรับรองมาตรฐานมีฐานะเป็นองค์กรมหาชน
ค.การประเมินผลคำนึงถึงความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษา
ง.เสนอผลประเมินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสาธารณชน
ตอบ ก.ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกครั้งแรก ใน 5 ปี
24. หลักการจัดการศึกษาข้อใด ไม่สอดคล้องตาม พ.ร.บ.
ก.ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้
ข.ครูต้องมีจิตสำนึกที่จะพัฒนาเด็กอย่างเต็มความสามารถ
ค.ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
ง.ต้องส่งเสริมผู้เรียนพัฒนาตามศักยภาพ
ตอบ ข.ครูต้องมีจิตสำนึกที่จะพัฒนาเด็กอย่างเต็มความสามารถ
25. ข้อใดสำคัญที่สุดเกี่ยวกับหลักสูตร
ก.พัฒนาคุณภาพชีวิตบุคคลให้เหมาะสมกับวัยตามศักยภาพ
ข.สอดคล้องความต้องการชุมชน
ค.คำนึงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
ง.เหมาะสมกับความจริงก้าวหน้าด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
ตอบ ก.พัฒนาคุณภาพชีวิตบุคคลให้เหมาะสมกับวัยตามศักยภาพ
26. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการศึกษาภาคบังคับของผู้ปกครอง
ก.เป็นสิทธิ ข.เป็นหน้าที่
ค.เป็นเสรีภาพ ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ข.เป็นหน้าที่
27. ต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก.การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายความว่าการศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข.ผู้สอน หมายความว่าครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่างๆ
ค.กระทรวง หมายความว่ากระทรวงการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมแห่งชาติ
ง.ครู หมายความว่าบุคลากรวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและส่ง เสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
ตอบ ค.กระทรวง หมายความว่ากระทรวงการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมแห่งชาติ
28. ข้อใดไม่หลักการจัดการศึกษาตาม พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก.เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ข.ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ค.การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ง.การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความ บกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม
ตอบ ง.การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความ บกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม
29. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ไม่ได้กำหนดให้หน่วยงานใดมีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก.หน่วยงานหรือสถานศึกษาของรัฐและเอกชน
ข.มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
ค.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง.องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา และสถานประกอบการ
ตอบ ข.มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
30. การจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัดการศึกษาให้ยึดหลักอะไรบ้าง
ก.มีเอกภาพด้านนโยบายและหลากหลายในการปฏิบัติ
ข.มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษา
ค.ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ มาใช้ในการจัดการศึกษา
ง.ถูกทั้ง ก ข และ ค
ตอบ ง.ถูกทั้ง ก ข และ ค
31. ข้อใดไม่ใช่รูปแบบการจัดการศึกษา ตาม พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก.การศึกษาในระบบการเรียนรู้ ข.การศึกษาตามอัธยาศัย
ค.การศึกษานอกระบบ ง.การศึกษาในระบบ
ตอบ ก.การศึกษาในระบบการเรียนรู้
32. ข้อใดไม่ใช่ระดับของการจัดการศึกษาในระบบ
ก.การศึกษาขั้นพื้นฐาน ข.การศึกษาปฐมวัยศึกษา
ค.การศึกษาระดับอุดมศึกษา ง.ถูกทั้งข้อ ก และข้อ ค
ตอบ ข.การศึกษาปฐมวัยศึกษา
33. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไม่ถูกต้อง ตาม พ.ร.บ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. ให้มีการจัดการศึกษาภาคบังคับเก้าปี
ข. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานประกอบด้วยการจัดการศึกษาซึ่งจัดไม่น้อยกว่าสิบสองปี
ค. การศึกษาภาคบังคับเก้าปีและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสิบสองปี จะต้องดำเนินการภายในปี พ.ศ. 2544 เป็นอย่างช้า
ง. การศึกษาระดับอุดมศึกษามีสองระดับ คือ ระดับต่ำกว่าปริญญา และระดับปริญญา
ตอบ ค.การศึกษาภาคบังคับเก้าปีและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสิบสองปี จะต้องดำเนินการภายในปี พ.ศ. 2544 เป็นอย่างช้า
34. แนวการจัดการการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ยึดหลักตามข้อใด
ก.ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเท่ากัน ข.ถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
ค.หลักสูตรมีความสำคัญที่สุด ง.กระบวนการเรียนการสอนสำคัญที่สุด
ตอบ ข.ถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
35. จุดเน้นของการจัดการศึกษาตามแนวการจัดการศึกษาคือข้อใด
ก.ความรู้คู่คุณธรรม
ข.ความรู้ คุณธรรม และกระบวนการเรียนรู้
ค.ความรู้ กระบวนการเรียนรู้ และบูรณาการ
ง.ความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และบูรณาการตามความเหมาะสม
ตอบ ง.ความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และบูรณาการตามความเหมาะสม
36. ใครเป็นผู้กำหนดหลักสูตรแกนกลางศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก.กระทรวงศึกษาธิการ ศาสนา และวัฒนธรรม
ข.สภาการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมแห่งชาติ
ค.คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง.คณะกรรมการจัดทำหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ตอบ ค.คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
37. องค์กรหลักในกระทรวงการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีกี่องค์กร
ก.1 องค์กร ข.2 องค์กร
ค.3 องค์กร ง.4 องค์กร
ตอบ ง.4 องค์กร
38. การแบ่งเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้คำนึงถึงเรื่องใดเป็นหลัก
ก.ปริมาณสถานศึกษา และความเหมาะสม ด้านอื่น
ข.จำนวนประชากร และความเหมาะสมด้านอื่น
ค.ปริมาณสถานศึกษา และจำนวนประชากร
ง.ปริมาณสถานศึกษา จำนวนประชากร และความเหมาะสมด้านอื่น
ตอบ ง.ปริมาณสถานศึกษา จำนวนประชากร และความเหมาะสมด้านอื่น
39. ตามพระราชบัญญัตินี้กำหนดให้กระทรวงกระจายอำนาจ ในด้านใดบ้าง
ก.บริหารบุคคล งบประมาณ บริหาร จัดการ และบริหารทั่วไป
ข.วิชาการ บริหารบุคคล งบประมาณและการ มีส่วนร่วม
ค.วิชาการ งบประมาณ บริหารบุคคลและการบริหารทั่วไป
ง.งบประมาณ บริหารบุคคล การมีส่วนร่วม และการบริหารทั่วไป
ตอบ ค.วิชาการ งบประมาณ บริหารบุคคลและการบริหารทั่วไป
40. ใครเป็นผู้จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา
ก.หน่วยงานต้นสังกัด และสถานศึกษา
ข.เขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐานและสถานศึกษาหน่วยงานอิสระ และสถานศึกษา
ค.หน่วยงานอิสระ และสถานศึกษา
ง.องค์กรมหาชน และสถานศึกษา
ตอบ ก.หน่วยงานต้นสังกัด และสถานศึกษา
41. ใครเป็นผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
ก.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข.คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค.สำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมิน คุณภาพการศึกษา
ง.สำนักงานประกันคุณภาพการศึกษา
ตอบ ค.สำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมิน คุณภาพการศึกษา
42. ใครเป็นผู้ส่งเสริมให้ระบบ ขบวนการผลิตการพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ และมาตรฐานที่เหมาะสม กับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง
ก.กระทรวงศึกษาธิการ ศาสนาและวัฒนธรรม
ข.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค.องค์กรกลางบริหารงานบุคคล
ง.สภาวิชาชีพ
ตอบ ก.กระทรวงศึกษาธิการ ศาสนาและวัฒนธรรม
43. องค์กรวิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา เป็นองค์กรภายใต้การบริหารของข้อใด
ก.กระทรวงการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ข.องค์กรกลาง บริหารงานบุคคล
ค.สภาวิชาชีพ ง.องค์กรอิสระ
ตอบ ค.สภาวิชาชีพ
44. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษามีทั้งหมดกี่คน
ก.12 คน ข.15 คน
ค.17 คน ง.23 คน
ตอบ ข.15 คน
45. ข้อใดกล่าวถูกต้อง สถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคล
ก.อสังหาริมทรัพย์ที่มีผู้อุทิศให้ไม่ถือเป็นที่ราชพัสดุ
ข.ผลประโยชน์ที่เกิดจากที่ราชพัสดุให้เป็นรายได้ของสถานศึคกษา
ค.เบี้ยปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาการทำของเป็นรายได้ที่ไม่ต้องส่งทางการคลัง
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
46. ตามเจตนารมณ์ ของ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 องค์กรกลางบริหารงานบุคคล ควรมีฐานะอย่างไร
ก.เป็นองค์กรมหาชน ข.เป็นหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงฯ
ค.เป็นองค์กรอิสระในกำกับกระทรวง ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ข.เป็นหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงฯ
47. ตาม พ.ร.บ การศึกษาแห่งชาติ รัฐพึงจัดสรรเงินอุดหนุนการศึกษา ไม่ถูกต้องในข้อใด
ก.การศึกษาที่จัดโดยบุคคลครอบครัวองค์กรมหาชน
ข.การศึกษาที่จัดโดยบุคคล องค์กรวิชาชีพ สถานประกอบการ
ค.องค์กรอิสระ องค์กรวิชาชีพ สถาบันสังคม
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ก.การศึกษาที่จัดโดยบุคคล ครอบครัวองค์กรมหาชน
48. การประเมินผลภายนอกครั้งแรก ให้ทำภายในเวลาเท่าใด นับแต่วันที่ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ใช้บังคับ
ก.3 ปี ข.4 ปี
ค.5 ปี ง.6 ปี
ตอบ ง.6 ปี
49. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับสถานศึกษาประเมินผู้เรียน
ก.พิจารณาจากการพัฒนาผู้เรียน
ข.พิจารณาจากพฤติกรรมและการเข้าร่วมกิจกรรม
ค.พิจารณาจากกระบวนการเรียนการสอน
ง.ถูกทุกข้อพิจารณาจากเวลาเรียน
ตอบ ง.ถูกทุกข้อพิจารณาจากเวลาเรียน
50. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีทั้งหมดกี่คน
ก.15 คน ข.17 คน
ค.23 คน ง.27 คน
ตอบ ง.27 คน
แนวข้อสอบพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2553
*********************
1. เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 เพื่อสิ่ง
ใดต่อไปนี้
ก. การบริหารและการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพ
ข. การพัฒนาการศึกษาแก่นักเรียนทั้งสองระดับ
ค. นักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา พัฒนาการศึกษาให้มีสัมฤทธิผลและมีคุณภาพยิ่งขึ้น
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
2. การประกาศใช้ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 อยู่ในหนังสือ
เล่มใด
ก. อยู่ในเล่ม 125 ตอนที่ 35 ก ข. อยู่ในเล่ม 127 ตอนที่ 45 ก
ค. อยู่ในเล่ม 129 ตอนที่ 55 ก ง. อยู่ในเล่ม 131 ตอนที่ 65 ก
ตอบ ข. อยู่ในเล่ม 127 ตอนที่ 45 ก
3. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ฉบับปัจจุบัน เป็นฉบับที่เท่าไร
ก. ฉบับที่ 2 ข. ฉบับที่ 3
ค. ฉบับที่ 4 ง. ฉบับที่ 5
ตอบ ข. ฉบับที่ 3
4. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ใช้เป็นปีที่เท่าไรในรัชการปัจจุบันข้อใดถูกต้อง
ก. เป็นปีที่ 35 ในรัชการปัจจุบัน ข. เป็นปีที่ 45 ในรัชการปัจจุบัน
ค. เป็นปีที่ 55 ในรัชการปัจจุบัน ง. เป็นปีที่ 65 ในรัชการปัจจุบัน
ตอบ ข. เป็นปีที่ 45 ในรัชการปัจจุบัน
5. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 ที่ปรับปรุงใหม่ มีกี่มาตรา
ก. 4 มาตรา ข. 5 มาตรา
ค. 6 มาตรา ง. 7 มาตรา
ตอบ ก. 4 มาตรา
6. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 ให้ไว้ ณ วันที่ใด
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ข. วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ค. วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ง. วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ตอบ ก. วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
7. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 ประกาศใช้ ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ข. วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ค. วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ง. วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ตอบ ข. วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
8. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 มีผลบังคับใช้ ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ข. วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ค. วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ง. วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ตอบ ค. วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
9. ข้อใดกล่าวถูกต้อง เกี่ยวกับการตราพระราชบัญญัติ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553
ก. การตรา พรบ.ขึ้นไว้โดย คำแนะนำและยินยอมของสภาการศึกษาแห่งชาติ
ข. การตรา พรบ.ขึ้นไว้โดย คำแนะนำของสภาการศึกษาแห่งชาติ
ค. การตรา พรบ.ขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
ง. การตรา พรบ.ขึ้นไว้โดยคำแนะนำของรัฐสภา
ตอบ ค. การตรา พรบ.ขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
10. การยกเลิกความใน มาตรา 37 พรบ.กศช. 42 / 45 ใน พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 เป็น มาตราใด
ก. มาตรา 3 ข. มาตรา 4
ค. มาตรา 5 ง. มาตรา 6
ตอบ ก. มาตรา 3
11. จากมาตรา 4 ของ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 ให้เพิ่มความ
ต่อไปนี้เป็นวรรคห้าของมาตราใดแห่ง พรบ.กศช. /2542 และ แก้ไข
ก.
ค. มาตรา 39 ง. มาตรา 40
ตอบ ข. มาตรา 38
12. ในมาตรา 3 ของ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 และให้ใช้
ข้อความนี้แทน “มาตรา 37 การบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้สถานศึกษา
ได้ยึดอะไรเป็นสำคัญของมาตรานี้
ก. เขตพื้นที่การศึกษา ข. ระดับของการศึกษา
ค. จำนวนสถานศึกษา ง. จำนวนประชากร
ตอบ ก. เขตพื้นที่การศึกษา
#คลิ๊กดูแนวข้อสอบราชการที่ www.โหลดแนวข้อสอบราชการ.com
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
โทร: 082-8551615 (คุณปาณิสรา)
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ )