แนวข้อสอบกฎหมายอาญา
1. การกระทำความผิดข้อใดในต่อไปนี้ ไม่ถือว่าได้กระทำลงในราชอาณาจักร
ก. นายเอกได้ชกต่อยนายโท บนเครื่องบินสัญชาติไทย
ข. นายเอได้ยิงนายบี ซึ่งเป็นคนไทยในประเทศอังกฤษ
ค. นายจันทร์ยิงปืนจากฝั่งพม่า มาถูกนายอังคารในฝั่งไทย
ง. นาย ก อยู่ประเทศ จีน ได้ใช้ให้นาย ข ยิง นาย ค ในประเทศไทย
คำตอบ : ข้อ ข. เพราะการกระทำในเรือ/ อากาศยานไทย (ไม่ว่าอยู่ที่ใด) ผลแห่งการกระทำเกิดขึ้นในราชอาณาจักร หรือตัวการ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน กระทำนอกราชอาณาจักร แต่ความผิดหลักกระทำในราชอาณาจักร ก็ถือว่ากระทำความผิดในราชอาณาจักร
2. นายอาทิตย์ ทำงานเป็นเลขานุการทูตที่ประเทศสิงคโปร์ ได้ยักยอกเงินซึ่งตนมีหน้าที่ดูแลไป ผู้บังคับบัญชาทราบจึงเรียกพบ แต่นายอาทิตย์ กลับเสนอเงินเพื่อปิดปาก ต่อมากระทรวงต่างประเทศร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี กรณีนี้ต้องรับโทษในราชอาณาจักร หรือไม่
ก. รับโทษในความผิดฐานยักยอก
ข. รับโทษในความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงาน
ค. รับโทษทั้ง ข้อ ก และ ข้อ ข
ง. ไม่ต้องรับโทษในราชอาณาจักร
คำตอบ : ข้อ ก. ความผิดฐานเป็นเจ้าของพนักงานยักยอกเงินตาม ม. 147 เป็นความผิดที่ระบุไว้ในมาตรา 9 เมื่อกระทำผิดเป็นเจ้าพนักงานของรัฐกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตามที่ระบุได้ย่อมต้องรับโทษในราชอาณาจักร ( มาตรา 9)
3. นายหนึ่งได้ขอยืมเงิน นายสองในขณะที่อยู่ในขณะที่อยู่บริเวณห้องผู้โดยสารขาออกของประเทศอินเดีย นายสองไม่ให้จึงทะเลาะกันขณะนั้นเอง นายหนึ่งได้ถือโอกาสล้วงเอาเงินนายสองไปเมื่อมาถึงประเทศ นายสองได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบถาม นายหนึ่งต้องรับโทษในราชอาณาจักร หรือไม่
ก. ไม่ต้องรับโทษในราชอาณาจักร เพราะไม่ได้กระทำในประเทศไทย
ข. ไม่ต้องรับโทษในราชอาณาจักร เพราะไม่ได้กระทำในอากาศยานไทย
ค. ต้องรับโทษในราชอาณาจักร เพราะนายหนึ่งเป็นคนไทย และนายสองได้ร้องทุกข์แล้ว
ง. ต้องได้รับโทษในราชอาณาจักร เพราะห้องผู้โดยสารขาออกถือเป็นเขตสากล
คำตอบ : ข้อ ค. เป็นการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์นอกราชอาณาจักร เมื่อผู้กระทำความผิดเป็นคนไทยและผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้กระทำความผิดจึงต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร มาตรา 8 (ก) (8)
4. ข้อใด กล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการ “ รอการลงโทษ ”
ก. ศาลฟ้องต้องโทษจำคุก เป็นรายกระทง ไม่เกิน 3 ปี
ข. ต้องไม่เคยจำคุกจริงๆมาก่อน
ค. ต้องไม่เคยรอลงโทษจำคุกมาก่อน
ง. ศาลจะใช้ดุลยพินิจเป็นเรื่องๆไป
คำตอบ : ข้อ ค. การรอลงโทษ นั้นแม้จำเลยละเลย รอการลงโทษมาก่อนศาลก็สามารถที่จะรอการลงโทษได้อีกในคดีหลัง
5. ในกรณีใดต่อไปนี้ ศาลไม่สามารถเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน
ก. เคยต้องโทษจำคุกในคดีเจตนา
ข. เป็นคดีลหุโทษ
ค. ศาลลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน
ง. เป็นคดีประมาท
คำตอบ : ข้อ ก. หากเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน แต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ศาลจะพิพากษาให้ลงโทษกักขังแทนจำคุกก็ได้
6. ข้อใดมิใช่ความหมายของการกระทำโดยเจตนาทางกฎหมายอาญา
ก. เจตนาประสงค์ต่อผล
ข. เจตนาเล็งเห็นผล
ค. เจตนากระทำต่อผล
ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ข้อ ค. การกระทำโดยเจตนา ได้แก่ กระทำโดยรู้สึกในการกระทำ และในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น
7. นาย
ก. ประมาท
ข. ละเว้น
ค. งดเว้น
ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ข้อ ค. นายเอกมีหน้าที่จะต้องดูแลนักเรียนแต่ไม่ช่วย ถือว่าเป็นการกระทำโดยงดเว้น
8. บุคคลใดเจตนาที่จะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ผลของการกระทำเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่ง ถือว่าเป็นการกระทำประเภทใด
ก. โดยสำคัญผิด
ข. โดยพลาดไป
ค. โดยประมาท
ง. โดยจำเป็น
คำตอบ : ข้อ ข. โดยพลาด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 60
9. นาย
ก. เจตนา โดยประสงค์ต่อผล
ข. เจตนา โดยประมาทเลินเล่อ
ค. เจตนาเล็งเห็นผล
ง. เจตนาโดยพลาดไป
คำตอบ : ข้อ ค. การที่เห็นคนอยู่เต็มโบกี้รถไฟนั้น นายเอกยิงปืนขึ้นไปย่อมที่จะถูกคนได้แน่นนอนดังนั้นจึงเป็นเจตนาเล็งเห็นผล
10. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ความผิดอาญาแผ่นดิน
ก. ลักทรัพย์
ข. ฉ้อโกง
ค. ยักยอก
ง. บุกรุก
คำตอบ : ข้อ ก. เพราะความผิดฐาน ฉ้อโกง ยังยอก บุกรุก เป็นความผิดอันยอมความกันได้ (เป็นความผิดต่อส่วนตัว) แต่ความผิดฐานลักทรัพย์นั้นยอมความไม่ได้ เพราะเป็นความผิดต่อแผ่นดิน
แนวข้อสอบ กฎหมายลักษณะพยาน
๑. คำเบิกความพยานบุคคลใดรับฟังไม่ได้
๑. พยานเบิกความต่อศาลโดยมิได้สาบานตน
๒. พยานเบิกความต่อศาล โดยมิได้สาบานตนแต่ก่อนจบคำเบิกความ ศาลให้พยานได้
สาบานตัวและยืนยันข้อเท็จจริง
๓. ในชั้นศาลอุทธรณ์ ความปรากฏว่าพยานเบิกความโดยมิได้สาบานตน ศาลอุทธรณ์สั่งย้อน
สำนวนไปให้ศาลชั้นต้น เรียกพยานผู้นั้นมาสาบานตัวและยืนยันข้อเท็จจริง
๔. ทุกข้อรับฟังไม่ได้
ตอบ ๓.ในชั้นศาลอุทธรณ์ ความปรากฏว่าพยานเบิกความโดยมิได้สาบานตน ศาลอุทธรณ์สั่ง
ย้อน
๒. พนักงานสอบสวนถูกอ้างเป็นพยาน และได้ตอบคำซักถามของอัยการโจทก์ว่าผู้เสียหายได้มาแจ้งความว่าถูกจำเลยข่มขืนกระทำชำเรา ถ้อยคำที่พนักงานสอบสวนเบิกความว่า “ผู้เสียหายได้มาแจ้งความ
ว่าถูกจำเลยกระทำชำเรา” เป็นพยานชนิดใด
๑. พยานแวดล้อม
๒. พยานบอกเล่า
๓. พยานพฤติเหตุ
๔. ประจักษ์พยาน
ตอบ ๔. ประจักษ์พยาน
๓. ข้อใดที่สามารถรับฟังเป้นพยานบุคคลได้
๑. คนวิกลจริตที่ศาลสั่งให้เป็นผู้ไร้ความสามารถ แต่สามารถเข้าใจข้อเท็จจริงที่เป็นประเด็น
และตอบคำถามได้
๒. ในคดีอาญาโจทก์ขออ้างจำเลยของโจทก์ในคดีนั้นเอง
๓. ในคดีอาญาโจทก์ขออ้างจำเลยคนหนึ่งมาเป็นพยานของตน เพื่อยืนยันเอาผิดกับจำเลยอีก
คนหนึ่งในคดีนั้น
๔. ทุกข้อรับฟังเป้นพยานบุคคลไม่ได้
ตอบ คนวิกลจริตที่ศาลสั่งให้เป็นผู้ไร้ความสามารถ แต่สามารถเข้าใจข้อเท็จจริงที่เป็น
ประเด็นและตอบคำถามได้
๔. บุคคลใดไม่สามารถเป็นพยานได้
๑. เด็กอายุ ๒ ขวบ ถูกข่มขืน เด็กนั้นถามตอบไม่รู้เรื่อง
๒. เด็กอายุ ๕ ขวบ แต่ตกใจประหม่าไม่กล้าเบิกความ
๓. คนเป็นใบ้
๔. คนต่างด้าว
ตอบ ๒. เด็กอายุ ๕ ขวบ แต่ตกใจประหม่าไม่กล้าเบิกความ
๕. เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญาและจำเลยให้การปฏิเสธแล้ว ศาลจะนัดคู่ความทำอะไรต่อไปก่อน
๑. นัดสืบพยานโจทก์
๒. นัดสืบพยานจำเลย
๓. นัดชี้สองสถาน
๔. นัดตรวจพยานหลักฐาน
ตอบ ๔. นัดตรวจพยานหลักฐาน
๖. ในคดีอาญา คู่ความต้องยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐานไม่น้อยกว่ากี่วัน
๑. ๓ วัน ๒. ๗ วัน
๓. ๑๕ วัน ๔. ๑๔ วัน
ตอบ ๒. ๗ วัน
๗. ผู้ใดไม่ต้องสาบานหรือปฏิญาณตนก่อนเบิกความ
๑. เด็กอายุ ๑๕ ปีบริบูรณ์ ๒. ภิกษุเขมร
๓. ผู้แทนพระองค์ ๔. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ๒. ภิกษุเขมร
๘. ผู้ใดแม้มาเบิกความจะไม่ยอมตอบคำถามใดๆก็ได้
๑. พระรัชทายาท
๒. ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
๓. สามเณร
๔. ถูกทุกข้อ
ตอบ ๔. ถูกทุกข้อ
๙. ข้อใดถูกต้อง
๑. เจ้าพนักงานตำรวจค้นบ้านจำเลยโดยไม่มีหมายค้น ยึดได้เมทแอมเฟตามีนของกลางการ
ค้นไม่ชอบทำให้การสอบสวนไม่ชอบ พนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้อง
๒. เจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปจับจำเลยในบ้านโดยไม่มีหมายจับและหมายค้น ย่อมทำให้การ
สอบสวนไม่ชอบ ทำให้พนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้อง
๓. การค้นบ้านที่เกิดเหตุเจ้าพนักงานแสดงบัตร ป.ป.ส.โดยมารดาของจำเลยยินยอมให้ค้นโดย
ไม่มีหมายค้น ศาลรับฟังของกลางที่ยึดได้จากบ้านที่เกิดเหตุได้
๔. เจ้าพนักงานดักฟังโทรศัพท์จำเลยคุยกับพวกของจำเลยโดยมิชอบได้ความว่าของกลางซุกซ่อน
อยู่ที่บ้านของจำเลย จึงได้เข้าตรวจค้นโดยมีหมายค้นของกลางดังกล่าวรับฟังเป็น
พยานหลักฐานได้
ตอบ ๓.การค้นบ้านที่เกิดเหตุเจ้าพนักงานแสดงบัตร ป.ป.ส.โดยมารดาของจำเลยยินยอมให้
ค้นโดยไม่มีหมายค้น ศาลรับฟังของกลางที่ยึดได้จากบ้านที่เกิดเหตุได้
๑๐. ในคดีฆาตกรรม ตำรวจพบศพซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นศพผู้ตายหรือไม่จึงให้สุนัขของผู้ตายมาดมที่ศพ สุนัขแสดงอาการดีใจว่าเป็นนายของมันตำรวจที่มาเบิกความถึงกิริยาของสุนัขดังกล่าวเป็นพยานชนิดใด
๑. พยานบอกเล่า ๒. ประจักษ์พยาน
๓. พยานแวดล้อม ๔. พยานชั้นสอง
ตอบ ๒. ประจักษ์พยาน
แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และแก้ไขเพิ่มเติม
********************
1. ผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติฉบับนี้คือ
ก. นายกรัฐมนตรี ข. คณะรัฐมนตรี
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทย ง. ก.ตร.
ตอบข้อ ก. นายกรัฐมนตรี
2. ข้อใดเป็นอำนาจหน้าที่ของ สตช.
ก. ถปภ. องค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ
ข. ดูแลควบคุมและกำกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติตาม ป. วิอาญา
ค. ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางอาญา
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง. ถูกทุกข้อ
3. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แบ่งส่วนราชการออกเป็นกี่ส่วน
ก. 2 ส่วน
ข. 3 ส่วน
ค. 4 ส่วน
ง. กี่ส่วนก็ได้แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ตอบข้อ ก. 2 ส่วน ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 10 บัญญัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแบ่งส่วนราชการออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 2. กองบัญชาการ
4. ใครเป็นอธิบดีกรมตำรวจคนแรกและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนแรก
ก. พล. ท. พระวรางศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ , พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก
ข. พล. ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ , พล.ต.อ. พรศักดิ์ ดุรรงค์วิบูลย์
ค. พล.ต.อ. ไสว ไสวแสนยากร , พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก
ง. พล.ต.ท. พระยาอธิปกรณ์ประกาศ , พล.ต.อ. พจน์ บุณยะจินดา
ตอบข้อ ก. พล. ท. พระวรางศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ , พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก
5. “ ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยจะทำไม่ได้ ในทางที่ไม่ขัดต่อ ศีลธรรม ขนบธรรมเนียม
ประเพณี อันดีงามและกฎหมายบ้านเมือง ” เป็นคำกล่าวของใคร
ก. พล. ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ ข. จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
ค. พระยามโนปกรณ์นิติธาดา ง. พล.ต.อ. หลวงชาติตระการโกศล
ตอบข้อ ก. พล. ต.อ. เผ่า ศรียานนท์
6. “ ก.ต.ช. ” ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ย่อมาจากอะไร
ก. คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ ข. คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ
ค. คณะกรรมการาชการตำรวจ ง. คณะกรรมการกรมตำรวจแห่งชาติ
ตอบข้อ ข. ตามพ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 16 บัญญัติ “ ให้มีคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ คณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า ก.ด.ช .”
7. บุคคลใดเป็นผู้บังคับข้าราชการตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ก. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ข. นายกรัฐมนตรี
ค. จเรตำรวจแห่งชาติ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ข. ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 11 สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าส่วนราชการ มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ (2) เป็นผู้บังคับบัญชา ข้าราชการตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รองจากนายกรัฐมนตรี นั่นก็หมายความว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8. คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ มีบุคคลใดดำรงตำแหน่งเป็น ประฐานกรรมการ
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ง. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ตอบข้อ ก. ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 17 กำหนดให้นายกรัฐมนตรีประธานกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ
9. บุคคลตามข้อใดเป็นกรรมการโดยที่ตำแหน่งของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ค. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง. ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 17 กำหนดให้นายกรัฐมนตรีประธานกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ปลัดกระทรวงยุติธรรมเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติและผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติเป็นกรรมการโยตำแหน่ง
10. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ มีทั้งหมดกี่คน
ก. 3 คน ข. 4 คน
ค. 7 คน ง. 10 คน
ตอบข้อ ข. ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 17 กำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติมีทั้งหมด 4 คน
#คลิ๊กดูแนวข้อสอบราชการที่ www.โหลดแนวข้อสอบราชการ.com
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
โทร: 082-8551615 (คุณปาณิสรา)
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ )